การสร้างวัดบ้านปาง

การสร้างวัดเริ่ม พ.ศ. ๒๕๕๔ ครูบาเจ้าศรีวิชัย อายุ ๒๕ ปี พรรษา ๔ ได้ขอให้นายควายโยมบิดาแผ้วถาง ป่าดง เบิกเป็นปฐมฤกษ์เพื่อให้ เกิดสิริมงคล จากนั้นพระเณรและศรัทธาชาวบ้านต่างช่วยกันปรับสถานที่บนเนินเขา ให้เรียบและขยายอาณาเขตออกไปบ้างก็นําหินมาซ้อนก่อเป็น กําแพงเขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส กําหนดอาณาเขต บริเวณชั้นนอก สร้าง กุฏิ วิหาร ศาลาบาตร ร่วมกันทําด้วยจิตใจเบิกบาน เพราะต่างชื่นชมในบุญบารมีของครูบาเจ้าศรีวิชัย ว่าเป็นผู้ทรงวัตรปฏิบัติเคร่งครัด การสร้างวัดสําเร็จเสร็จเป็นบางส่วน จึงย้ายไปอยู่บนอรัญวาสีอาวาสแห่งใหม่และ ตั้งชื่อวัดว่า “วัดจอมสะหรีทรายมูลบุญเรือง” แต่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดบ้านปาง” เนื้อที่ทั้งหมด ๑๖๐ ไร่ กําหนดในเขต กําแพงมี ๒๐ ไร่ กําแพงหินที่ก่อล้อมรอบมี ๔ ชั้น ถ้ารวมกําแพงแก้วรอบพระธาตุเป็น ๕ ชั้น

ครูบาเจ้าศรีวิชัยสร้างวัดขึ้น โดยท่านจินตนาการให้คล้ายกับบรรยากาศครั้งพุทธกาล คือ จัดให้เป็น อรัญวาสี (วัดป่า) กําแพงใช้หินเป็นก้อน ก่อเรียงซ้อนให้เข้ากันอย่างเป็นระเบียบ ไม่สิ้นเปลือง ไม่ใช้ปูนซีเมนต์ ไม่ทําลาย ธรรมชาติแต่ให้ธรรมชาติผุดเด่น คนทั้งหลายเห็นพลังแห่งความบริสุทธิ์เกิดพลังศรัทธาทําให้วัดป่าวัดดอยห่างไกลเมือง อยู่ในชนบทแห่งนี้เจริญอย่างรวดเร็ว มีพระสงฆ์และสามเณรมาอยู่พํานักเป็นจํานวนมาก สมัยนั้นถือเป็นวัดหลวง แห่งหนึ่งในจังหวัดลําพูน ข้าวปลาอาหารสิ่งของ และปัจจัยสี่ไม่ขาดแคลน อีกทั้งยาจกวณิพกและขอทานต่างมาพึ่ง บารมีครูบาเจ้าศรีวิชัย รอบบริเวณอันเต็มไปด้วยศรัทธาจากสาธุชนน้อมถวายสิ่งของ คุณสมบัติครูบา และนามครูบาเจ้าศรีวิชัยในสมัญญาอื่น ๆ

แชร์องค์ความรู้ครูบาเจ้าศรีวิชัยให้กับเพื่อนๆ

thไทย